ครั้งแรกที่ต้อง(โดน)คดีอาญา..พรบ.เช็ค

คดีแรกในชีวิตที่ขึ้นโรงพักเมืองนครนายก โดยพี่กิตติ ตันเสียง เป็นร้อยเวรหรือพนักงานสอบสวน เจ้าของสำนวน (ปัจจุบันพี่เค้าเกษียณอายุราชการไปแระ) เพราะถูกแจ้งความ ข้อหา “เช็คเด้ง” เพราะจ่ายเช็คไปแล้ว ไม่มีเงินเข้าบัญชี พูดง่ายๆ ตีเช็คสั่งจ่ายค่าถมดินในโครงการจัดสรร แล้วไม่มีตังค์จ่าย เช็คเลยติดสปริง “เด้งดึ่งๆ” ทำเอาเจ้าของลายมือชื่อในเช็ค ต้องระเห็จไปยืนพิมพ์ลายนิ้วมือในฐานะผู้ต้องหา ก่อนจะแปรสภาพไปเป็นจำเลยในคดีอาญาและขึ้นไปศาลจังหวัดนครนายกไปในที่สุด
จะไม่ให้เช็คเด้งได้ไง จ่ายเช็คค่าถมดินไปกับผู้รับเหมา ไฟแนนซ์ถูกสั่งปิด ระงับการจ่ายเงิน ๖ ล้านบาทให้กับบริษัท แล้วบริษัทจ่ายเช็คไปแล้ว ไม่มีเงินไปให้เค้า ก็ถูกแจ้งความจับดิ โดนคดีเช็คไปทั้งหมด ๔ คดี ยกฟ้องไปคดีเดียว เพราะต่อสู้ได้ ทีเหลือ ต้องยอมจ่ายเงิน..ในชั้นอุทธรณ์ ..น่าสนใจนะ..ลองอ่านดู
จำได้ว่า ตอนถูกแจ้งความดำเนินคดี พิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจสอบประวัติอาชญากร ร้องไห้เลย ..ชีวิต..ช่างกระไรเลย ..ทำธุรกิจอยู่ดีๆกำลังไปได้ด้วยดีพอวันที่ 5 สิงหาคม 2540 เวลาประมาณ 15.00 น. รัฐบาลสั่งปิดสถาบันการเงินทันที ในเช้าวันที่ 6 สิงหาคม เวลา 10.00 น. ….ต้องไปรับเงิน 6 ล้าน …..แต่ไฟแนนซ์ถูกสั่งปิดไปแล้ว วิบากกรรมก็เริ่มทำงานทันทีแบบกลัวเสียเวลา
อนิจจา นี้และความไม่แน่นอนของชีวิต วันนี้… พรุ่งนี้
เพราะเมื่อเงินไม่มา ปัญหาก็เลยมาแบบนี้แทน ชีวิตที่อยู่ในช่วงนั้น ลำบากมากๆขายทรัพย์สินทุกอย่างเพื่อจะแลกเปลี่ยนมาเป็นเงินหล่อเลี้ยงชีวิต เดินขึ้นศาลจังหวัดนครนายกในคดีเช็คต้องประกัน 4 คดี ยกฟ้องไป 1 คดี ที่เหลือก็ถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก แล้วก็ประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ ………..พอศาลอุทธรณ์จะอ่านคำพิพากษา …ก็นำเงินไปชำระหนี้ให้ผู้เสียหาย เมื่อผู้เสียหายหรือเจ้าของเงินมารับเงินแล้วก็ถอนไป ไม่ต้องอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ….. มีทักษะในการทำคดีมาก่อน
พอเริ่มทำคดีชาวบ้าน รวมทั้งคดีตนเอง…ทำให้ได้รู้ว่าการจ่ายเช็คมี 2 ลักษณะคือ การจ่ายเช็คชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายกับเช็คค้ำประกัน
เช็คชำระหนี้ อันนี้แหละที่เป็นคดีอาญากรณีเช็คเด้ง
แต่กรณีหลังคือเป็นความรับผิดทางแพ่ง ….ความเป็นจริง…ที่ค่อนข้างลำบาก ไม่ใช่ง่ายอย่างที่คิด บางครั้งการ…จ่ายเช็คเพื่อค้ำประกัน ในคดีแพ่งอาจกลายเป็นคดีอาญา…ก็ได้ ….เพราะฉะนั้น การออกเช็ค ไม่ให้ติดคุก ต้องศึกษาให้ดี ทางที่ดี ไม่แน่ใจ..ใช้เงินสดดีกว่า ไม่เสี่ยงด้วย
ส่วนกรณีศึกษาที่นำมาเสนอคือ ลูกความ 2 สองคนเป็นสามีภรรยากัน ถูกหลอกให้ไปซื้อ อาคารโรงแรมที่ใบอนุญาตขาดไปแล้ว ก่อนจะนำมาขายให้ลูกความ 2 คนนี้ วิธีการขายก็น่าสนใจดี ผู้ขายหาคนรับซื้อฝากมาให้เรียบร้อยเลย ผู้ขายโอนขายให้ลูกความผู้เป็นสามี และนำไปขายฝาก เพื่อนำเงินไปให้ผู้ขาย และให้ภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสเป็นคนออกเช็คค้ำประกันเพื่อหลอกผู้รับซื้อฝากว่าซื้อขายกัน 32 ล้าน ขายฝาก 6 เดือน …. ผู้ขายติดต่อกับธนาคารบอกว่าปล่อยเงินกู้ให้ด้วยระหว่างที่มีการขายฝาก ที่ไหนได้ ….แพะชัดเจน เมื่อคนรับซื้อฝากได้อาคารที่ถูกอ้างว่าเป็นโรงแรมไป คนโอนขายได้เงินไป ลูกความสองสามีภรรยา ได้คดีอาญา คดีแพ่งมาแทน สุดท้าย ภรรยาติดคุกไป 1 ปี ออกมายังไม่พ้นวิบากกรรม ยังมีรอชำระหนี้ในคดีฉ้อโกงอีก 1 คดี ถ้าไม่มีเงินใช้หนี้ คงติดคุกทั้งสามีและภรรยา ทั้งสองคนก็พยายามหาเงินชำระหนี้อยู่ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่จบคดีเลย บางที คิดว่า ได้เงิน ได้เป็นเจ้าของโรงแรม ลืมคิดไปนิดเดียว แถมคุกตารางมาด้วย นี่แหละ..คดีอาญา จากพรบ.เช็ค..คิดก่อนนะ ถ้าไม่แน่ใจ อย่าใช้เช็คเลย…จะดีกว่า ..ไม่เสี่ยงติดคุกด้วยนะ..ขอบอก..

Facebook Comments